'ปตท.สผ.-เชฟรอน-มูบาดาลา' ยื่นประมูลบงกช-เอราวัณ คาดสะพัด1.2ล้านล้าน

นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ รองอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า หลังจากที่กรมเชื้อเพลิงฯ เปิดให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมประมูลแหล่งก๊าซเอราวัณและบงกชที่จะสิ้นสุดอายุสัมปทานเดิมลงในปี 2565-2566 ยื่นแบบฟอร์มแสดงความจำนง(ลงทะเบียน)ในการเข้าร่วมพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้น (PQ )เพื่อขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยในช่วงเช้าวันนี้ มีผู้ประกอบการ 3 บริษัท เดินทางมาลงทะเบียน ถือว่า ภาครัฐประสบความสำเร็จในการประมูล เพราะทั้ง 3 ราย ได้แข่งขันทั้ง 2 แหล่ง ซึ่งกรมฯ ประเมินว่า การประมูลครั้งนี้จะมีเม็ดเงินลงทุนสะพัดราว 1.2 ล้านล้านบาท เกิดรายได้ 2.1 ล้านล้านบาท ในช่วง 10 ปี

ทั้งนี้ หลังจากที่กรมฯ เปิดให้ลงทะเบียนตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้น (PQ) ตั้งแต่เวลา 08.30น. วันนี้ (4พ.ค.) ในช่วงเช้าวันนี้ มีผู้ประกอบการ 3 ราย มาลงทะเบียน นำโดยรายแรก คือ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือปตท.สผ. ถือฤกษ์ดีเวลา 09.09น. ส่งเจ้าหน้าที่จากกลุ่มงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ มายื่นแบบฟอร์มแสดงความจำนง (ลงทะเบียน) เข้าร่วมตรวจสอบคุณสมบัติทั้ง 2 แหล่ง คือแปลงสำรวจทะเลในอ่าวไทยหมายเลข G/61 (แหล่งเอราวัณ) และแปลง G2/61 (แหล่งบงกช)

ตามด้วยรายที่สอง นายไพโรจน์ กวียานันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทเชฟรอน ประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ถือฤกษ์เวลา 09.29 น. เดินทางเข้ายื่นแบบฟอร์มลงทะเบียนตรวจสอบคุณสมบัติทั้ง 2 แหล่งเช่นกัน โดยมองว่า เป็นการเปิดทางเลือกในการลงทุนให้กับบริษัท แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมประมูลทั้ง 2 แหล่งหรือไม่ เพราะจะต้องศึกษาข้อมูลเงื่อนไข และข้อกำหนดทั้งหมดก่อน ซึ่งยังมีเวลาตัดสินใจจนถึงวันที่ 25 ก.ย.นี้

“มั่นใจว่า เชฟรอนฯจะชนะการประมูลครั้งนี้ เพราะบริษัทมีประสบการณ์ในการอ่าวไทยมานานถึง 30 ปี มีความรู้ในการผลิตก๊าซในอ่าวไทย รวมถึงมีบุคคลกรที่มีคุณภาพ และการประมูลครั้งนี้ ไม่ได้เป็นห่วงอะไร แต่ยอมรับว่าระยะเวลาในการประมูลสั้น แต่เชื่อว่าในทางเทคนิคจะอยู่ในวิสัยที่บริหารจัดการได้”

จากนั้นรายที่สาม นำโดยนายราเชด อัล บลูชิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มูบาดาลา ปิโตรเลียม (ประเทศไทย) จำกัด ถือฤกษ์เวลา 10.45 น. เข้ายื่นแบบฟอร์มแสดงความจำนงตรวจสอบคุณสมบัติ (PQ) ทั้ง 2 แหล่ง คือเอราวัณและบงกช และพร้อมเข้าร่วมการแข่งขันประมูลทั้ง 2 แหล่ง ส่วนจะร่วมลงทุนกับพันธมิตรรายใดหรือไม่นั้น ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดใน ขณะนี้ ซึ่งมั่นใจว่าบริษัทมีศักยภายพร้อมที่จะแข่งขัน เพราะมีประสบการณ์ในการผลิตปิโตรเลียมทั้งในไทยและต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย ตะวันออกกลาง จึงมั่นใจว่าจะ สามารถผลิตก๊าซได้ตามข้อกำหนดของรัฐบาล