น้ำมันหนุนตลาด

น้ำมันหนุนตลาด

SET Index เคลื่อนไหวในแดนลบ ประเด็นหลักยังคงกังวลสถานการณ์การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงที่สำคัญ

บดบังบรรยากาศการลงทุน ประกอบกับ Fund Flow ที่ไหลออก หลังจากคาดการณ์ว่า เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในการประชุมเดือน ก.ย. นี้ ภาพรวม SET Index ปิดที่ 1,703.82 จุด (-0.98 จุด) Volume 3.3 หมื่นลบ. จาก Foreign Net –1,407.08 ลบ. TFEX Net -10,893 สัญญา ตราสารหนี้ +13,495 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ดาวโจนส์ปิดดีดตัวขึ้น หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ได้แสดงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐ พร้อมส่งสัญญาณว่าเฟดจะไม่รีบเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

+น้ำมันดิบปรับตัวขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากผลผลิตจากอิหร่านที่เริ่มส่งสัญญาณหดตัวลง ด้านเบเกอร์ ฮิวจ์ เผยแท่นขุดเจาะน้ำมันลดลงมากที่สุดในรอบกว่า 2 ปี

+วุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างงบประมาณกลาโหม-กิจการภายในประเทศ หวังเลี่ยงชัตดาวน์

-ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ ลดลง 1.7% ในเดือนก.ค. โดยได้รับผลกระทบจากการดิ่งลงของคำสั่งซื้อเครื่องบิน

+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 1.95 แสนล้านบาท ค่าเงินบาท 32.55 บาท/US

**จับตาวันนี้สหรัฐเตรียมเปิดเผยดัชนีการผลิตเดือนส.ค.จากเฟดสาขาดัลลัส 29 – 31 ช่วงเวลาจัดงาน Thailand Focus 2018

ตลาดหุ้นไทยวันนี้มีปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันปิดบวกและตลาดหุ้นต่างประเทศปิดปรับตัวขึ้น  รวมทั้งตลาดหุ้นภูมิภาคในเช้านี้เปิดบวก  ปัจจัยกดดันจาก  fund flow ผันผวน คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,695-1,715 จุด

กลยุทธ์การลงทุน  

-  PTT, AOT, CPALL, ADVANC, SCC, SCB, MINT, TOP, BEM, TMB และ TU เข้าร่วม roadshow ในงาน Thailand Focus (ที่มา ข่าวหุ้น)

- หุ้นที่คาดว่า 2H61 จะเติบโตต่อเนื่อง ANAN ORI SC KCE XO CPF SSP SVI

- ค่าการกลั่นเริ่มปรับตัวขึ้น SPRC IRPC TOP BCP

- ROBINS HMPRO ครม.คง VAT ที่ 7% อีก 1 ปี

หุ้นแนะนำพิเศษ

PTTEP (ราคาปิด 139.5 Bloomberg 145.87)

  • ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นสู่ 69 $/bbl จากอุปทานน้ำมันตึงตัวในตลาด ซึ่งรวมถึงผลผลิตจากอิหร่านหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 6 ส.ค. เพื่ออนุมัติมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่ ด้านแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 9 แท่น สู่ระดับ 860 แท่นในสัปดาห์นี้
  • ฝ่ายวิจัยคาดผลการดำเนินงานไรมาส 3 จะปรับตัวดีขึ้นจากปริมาณการผลิตที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ 308 พันบาร์เรลต่อวันจากการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นโครงการบงกชอีก 22% สู่ 66% ขณะที่คาดว่าราคาขายเฉลี่ยจะทรงตัวราคาน้ำมัน และคาดว่าค่าใช้จ่ายทางภาษีจะไม่สูงเท่าไตรมาส 2

หุ้นมีข่าว   

·        XO (ราคาปิด 10.50 ซื้อ ราคาเหมาะสม 13.10) ส่งซิกยอดขายครึ่งปีหลังทำนิวไฮ รุกขยายฐานลูกค้าใหม่โซนยุโรปเต็มสูบ แถมปรับราคาขาย 1.6% โกยเงินเพิ่ม กดปุ่มอัพกำลังผลิตแตะ 70% จากปัจจุบันใช้แล้ว 50% ฟากผู้บริหารการันตีผลงานมาตามนัด หรือโต 10-15% (ที่มาทันหุ้น)

·        GPSC ให้ SCB-TBANK เป็นแกนนำจัดหาเงินกู้ราว 1 แสนลบ.รองรับเข้าซื้อหุ้น GLOW ผถห.อนุมัติออกหุ้นกู้ 6.85 หมื่นลบ.

·        CPF ผลงานครึ่งปีหลังสดใสรับไฮซีซั่น ลุยสร้างโรงงานแปรรูปไก่ในเวียดนามมูลค่า 250 ล้านเหรียญ หวังสร้างฐานส่งออกในเอเชีย  ย้ำเป้ายอดขายปีนี้โต 5-8% ล่าสุดจับมือ PIM มอบทุนสร้างผู้เชี่ยวชาญด้านเกษตรมืออาชีพระดับโลก (ที่มา ข่าวหุ้น)

·        IRPC การันตีงบปี 61 กำไรโตแกร่ง โรงกลั่นผลิตเต็มกำลัง 2.1 แสนบาร์เรล/วัน ครึ่งปีหลังโตต่อเนื่องรับ GIM ทะยาน 14 เหรียญฯ ลั่นโครงการ MARS เพิ่มกำลังการผลิตพาราไซลีนเป็น 1.1 ล้านตัน/ปี และเบนซีน 3-5 แสนตัน/ปี(ที่มาข่าวหุ้น)

·        PTT คาดสรุปพันธมิตรร่วมทุนรถไฟเชื่อม 3 สนามบินใน ต.ค.-พ.ย.หลังเหลือเจรจา 2-3 กลุ่มเน้นในประเทศ จากเดิมกว่า 10 กลุ่ม ด้าน CK-BEM อยู่ระหว่างหาพันธมิตรร่วมประมูลรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน

·        SPA (ราคาปิด 15.3 ซื้อ ราคาเหมาะสม 19.2)กางแผนครึ่งปีหลัง รุกขยายฐานลูกค้าคนไทยและชาวต่างชาติ มุ่งขยายสาขาเพิ่ม มั่นใจรายได้ปีนี้โต 25% ล่าสุดได้รับคัดเลือกเป็น 1 ใน 3 บริษัทในไทย หรือ 1 ใน 200 สุดยอดบริษัทขนาดกลางและเล็กในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก(ที่มา : ข่าวหุ้น)

·        ความเห็น : เรายังคงประมาณการเดิม รายได้เติบโต 28%YoY สู่ 1,231 ลบ. และกำไรสุทธิเติบโต 30%YoY สู่ 227 ลบ. ถึงแม้ว่ากำไรสุทธิในช่วง 1H61 มีสัดส่วนเป็น 46% ของประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี แต่ในช่วง 2H61 เราคาดว่าบริษัทจะเติบโตได้ตามที่เราประมาณการไว้ จากการเปิดสาขาเพิ่ม และจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดจะกลับมาเติบโตดีอีกครั้งในไตรมาส 4

·        AOT คาดว่า จำนวนผู้โดยสารของทั้งปี 61 จะเติบโตที่ 8.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งต่ำกว่าประมาณการที่ 9-10% เล็กน้อย เนื่องจากคาดว่าในช่วงไตรมาสที่ 4/61 (ก.ค.-ก.ย.) จะได้รับผลกระทบจากการแข่งขันฟุตบอลโลกที่ทำให้นักท่องเที่ยวจากยุโรปเดินทางมาไทยน้อยลง ประกอบกับอุบัติเหตุเรือล่มที่จังหวัภูเก็ต เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้มีการยกเลิกจองโรงแรม ช่วงเดือนส.ค. แต่ในส่วนของรายได้ คาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนและทำสถิติใหม่ โดยเป็นผลมาจากจำนวน ผู้โดยสารระหว่างประเทศเติบโตสูงมาก (ที่มา อินโฟเควสท์)