รีบาวด์ตามเพื่อนบ้าน

รีบาวด์ตามเพื่อนบ้าน

SET Index วานนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับแกว่งตัวในกรอบแคบๆ หลังจากที่ตลาดร่วงติดต่อกันหลายวัน

จากปัจจัยกดดันภายนอกประเทศ ทั้ง Bond Yield ของสหรัฐ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และความกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน อย่างไรก็ตาม เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาในกลุ่ม ENERG อาทิ PTT และ PTTEP หลังจากน้ำมันดิบโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,696.92 จุด (+0.70 จุด) Volume 5.3 หมื่นลบ. จาก Foreign Net -4,628.93 ลบ. TFEX Net +7,427.00 สัญญาตราสารหนี้ +3,437 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+น้ำมันปรับตัวขึ้นจากตัวเลขการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่าน ต.ค. เหลือเพียง 1.1 ล้านบาร์เรล ลดลงจาก 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวันใน ก.ย.

+นทท.จีนเดินทางมาไทยช่วงวันชาติจีน 1.8 แสนคน เพิ่มจากปีก่อน 2.77% ยอดใช้จ่ายแตะหมื่นลบ.

+หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ IMF มั่นใจจีนสามารถปกป้องเงินหยวน แม้ค่าเงินร่วงหลัก

-ดาวโจนส์ปรับตัวลงจากความกังวลต่อแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลกหลัง IMF ปรับลดประมาณการเติบโต ท่ามกลางข้อพิพาททางการค้าสหรัฐ-จีน

-IMF ปรับลด GDP โลกปี 61 ลง 0.2% เหลือ 3.7% ปรับ GDP สหรัฐปี 62 ลง 0.2% เหลือ 2.5% และปรับลดคาดการณ์ GDP จีนปี 62 ลง 0.2% เหลือ 6.2%

-บอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่งทะลุ 3.250% นิวไฮ 7 ปี เก็งเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย-IMF ปรับลดจีดีพีเศรษฐกิจโลกของปีนี้จากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐกับประเทศคู่ค้าต่างๆ

-รูปีอินเดียดิ่งต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 74.27 เทียบดอลลาร์ เหตุราคาน้ำมัน-ความต้องการดอลลาร์เพิ่มขึ้น

+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 2.27 แสนล้านบาท ค่าเงินบาท 32.92 บาท/US

คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสดีดตัวตามตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน โดยมีปัจจัยบวกเรื่องราคาน้ำมันปรับขึ้น และจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เพิ่มขึ้น ส่วนปัจจัยลบเป็นเรื่องคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะเดินหน้ารับขึ้นดอกเบี้ยในปลายปีนี้รวมทั้งสถานการณ์สงครามการค้าที่ยืดเยื้อ  คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ  1,690-1,711 จุด

กลยุทธ์การลงทุน  

- KCE SVI XO กลุ่มส่งออกค่าเงินบาทอ่อนค่าสู่ 32.92 บาท/$

- KBANK KKP KTB TMB สินเชื่อเติบโต QTD

-หุ้น Theme EEC play : AMATA, WHA, EASTW, ATP30, ORI

- หุ้นที่คาดว่า 2H61 จะเติบโตต่อเนื่อง ANAN ORI SC KCE CPF SVI

- หุ้น MAI ที่ผลประกอบการ 2H61 เติบโตต่อเนื่อง XO CHAYO TACC SSP JKN AUCT

- AMATA, BBL, CPALL, STEC, PTT หุ้นแนะนำจากผลสำรวจนักวิเคราะห์

หุ้นแนะนำพิเศษ

CK (ราคาปิด 26.00 Bloomberg Consensus 31.22)

  • นายกฯ ยืนยันวันเลือกตั้ง 24 ก.พ.62 ยังไม่ตัดสินร่วมงานพรรคการเมือง ขอดูนโยบายแต่ละพรรคก่อน ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมเตรียมชง 20 โครงการมูลค่า 1 ล้านล้านบาท เข้าที่ประชุมครม.พิจารณาภายใน 5 เดือนนี้
  • กิจการร่วมค้าซีเคเอสที (ระหว่าง CK และ STEC) ได้ลงนามในสัญญาจ้างงานก่อสร้างบ่อพักและท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินร่วมกับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี(สุวินทวงศ์) สัญญาที่ 1 กับรฟม. มูลค่าโครงการ 69 ลบ. และสัญญาที่ 2 กับรฟม.และกฟน.มูลค่าโครงการ 426 ลบ. โดยจะใช้ระยะเวลาดำเนินการราว 1,420 วัน (ที่มา : SET)
  • Bloomberg คาดว่ากำไรปี 2018 จะอยู่ที่ 1.78 พันล้านบาท -1.7%YoY แต่เรามีมุมมองบวกเนื่องจาก Backlog ของ CK ลดลงจากระดับ 9 หมื่นล้านบาทสู่ 6 หมื่นล้านบาทซึ่งเพียงพอต่อการรับรู้รายได้อีกเพียง 2 ปี ทำให้โครงการใหม่ที่จะเริ่มประมูล CK มีโอกาสได้งานค่อนข้างสูงซึ่งจะเป็นตัวเร่งต่อการปรับตัวขึ้นของราคาหุ้น

หุ้นมีข่าว   

·        DTAC “กสทช.” รับแจ้งจาก DTAC ยืนยันเข้าประมูลคลื่น 900 MHz แต่ขอยื่นซองประมูลวันที่ 16 ต.ค. 61 เหตุรออนุมัติจากเทเลนอร์ กรุ๊ป พร้อมเสนอบอร์ดอนุมัติวันนี้ กรณี DTAC ไม่มายื่นซองก่อนเที่ยง จะยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางคุ้มครองชั่วคราวลูกค้าคลื่น 850 MHz (ที่มา ข่าวหุ้น)

·        + AH ทุ่มเงินราว 2.14 พันลบ. เข้าซื้อหุ้นเพิ่มใน SGAH ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศอินเดีย โปรตุเกส สหรัฐอเมริกา และจีน เป็น 49.99% จากเดิม 25.1% รองรับขยายฐานธุรกิจในตลาดโลก โดยบริษัทจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการมากขึ้นเพื่อให้การสนับสนุนและควบคุมการดำเนินงานในส่วนที่เป็นจุดอ่อนของ SGAH (ที่มา : IQ)

·        MAJOR เปิดตัวโรงภาพยนตร์ Esports ณ โรงภาพยนตร์ที่ 4 เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ รัชดา ภายใต้ชื่อ "Dell Gaming Esports Cinema"แห่งแรกรองรับการแข่งขัน Esports แบบครบวงจร โดยมีอัตราค่าบริการราคาเหมาทั้งวัน 200,000 บาท และราคาเหมาครึ่งวัน 100,000 บาท หวังดันรายได้ Non-movie เพิ่ม (ที่มา : IQ)

·        NPPG แจงยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผถห.เผยกลุ่มซีพีเป็นคู่ค้า-พันธมิตรทางธุรกิจ(ที่มา : IQ)

·        RJH อัตราการใช้พื้นที่เตียงพุ่งแตะ 100% เตรียมขยายเพิ่มรองรับจำนวนผู้ป่วยเพิ่ม หนุนรักษาอัตรากำไรขั้นต้นยืนเหนือ 30-31% ยิ้มรับเข้าไฮซีซันธุรกิจเฮลธ์แคร์ โกยรายได้เพิ่มจากผู้ประกอบการในนิคมใช้บริการตรวจเช็กสุขภาพนอกสถานที่ มั่นใจรายได้สิ้นปีนี้โตกว่า 15% (ที่มา ทันหุ้น)

·        ประเด็นลบกลุ่มที่อยู่อาศัย : ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการอสังหาฯ ไตรมาส 3 ลดลงจากความกังวลต่อมาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธปท.  ราคาน้ำมัน และดอกเบี้ยขาขึ้น ผู้ประกอบการใน ตลท.กังวลยอดขายร่วงในอีก 6 เดือนข้างหน้า ขณะที่ทริสเรทติ้งมองว่าแนวนโยบาย MacroPrudential สำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยน่าจะส่งผลดีต่อผู้ซื้อบ้าน รวมไปถึงผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ และธนาคารในระยะยาว แต่อาจส่งผลกระทบในเชิงลบต่อผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในระยะสั้น

·        กิจการร่วมค้า CK-STEC ลงนามสัญญาจ้างงานก่อสร้างบ่อพักและท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน กับกฟน. มูลค่า  495.56 ลบ.