posttoday

WHARTพร้อมเสนอขายหน่วยทรัสต์ 323.78 ล้านหน่วย

24 ตุลาคม 2562

เปิดจองซื้อหน่วยทรัสต์ พ.ย.นี้ โชว์จุดเด่นทรัพย์สินอยู่ในพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญทางด้านโลจิสติกส์ และอีอีซี 

เปิดจองซื้อหน่วยทรัสต์ พ.ย.นี้ โชว์จุดเด่นทรัพย์สินอยู่ในพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญทางด้านโลจิสติกส์ และอีอีซี 

น.ส.จรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA)ในฐานะเจ้าของทรัพย์สิน (สปอนเซอร์) และผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้กลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ เปิดเผยว่า ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (กองทรัสต์ WHART)เป็นกองทรัสต์ ที่เน้นลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ที่ก่อให้เกิดรายได้อย่างต่อเนื่อง

กลุ่ม WHA ในฐานะผู้สนับสนุนและผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ ได้ขายทรัพย์สินเข้ากองทรัสต์ WHART อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การไอพีโอ ในปี 2557 เป็นต้นมา โดยรูปแบบโครงการของกลุ่ม WHA ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการ Built-to-Suit Warehouse & Factory ระดับพรีเมี่ยม ที่ครบทั้งระบบสาธารณูปโภค-พลังงาน และ Digital Infrastructure

นอกจากนี้ โครงการส่วนใหญ่ ตั้งอยู่ในพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญทางด้านโลจิสติกส์ของประเทศรวมถึงพื้นที่ที่สอดรับกับแผนพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ภายใต้การส่งเสริมและสนับสนุนของภาครัฐ ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้ความต้องการคลังสินค้า โรงงานและศูนย์กระจายสินค้า ในเขตพื้นที่ดังกล่าวรวมถึงพื้นที่ อีอีซี มีความต้องการสูงขึ้นต่อเนื่อง

 

WHARTพร้อมเสนอขายหน่วยทรัสต์ 323.78 ล้านหน่วย

น.ส.นฤมล ตันตยาวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ เรียล เอสเตท แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ WHART กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการเพิ่มทุนครั้งที่ 4 เพื่อลงทุนในทรัพย์สิน เพิ่มเติมครั้งที่ 5 ของกองทรัสต์ WHART นั้น จะเป็นการลงทุนในทรัพย์สิน มูลค่าทั้งสิ้นไม่เกิน 4,880.25 ล้านบาท รวมจำนวน 5 โครงการ

แบ่งเป็นการลงทุนในกรรมสิทธิ์ 3 โครงการ และการลงทุนสิทธิการเช่า/สิทธิการเช่าช่วงจำนวน 2 โครงการ ซึ่งจะมีพื้นที่เช่าอาคารรวมประมาณ 155,237 ตารางเมตร แบ่งเป็นพื้นที่อาคารคลังสินค้าในโซนบางนา-ตราด สัดส่วนประมาณ 90% และพื้นที่อาคารโรงงานในโซนอีอีซี ประมาณ 10% พื้นที่เช่าหลังคารวมประมาณ 71,482 ตารางเมตร และพื้นที่เช่าลานจอดรถรวมประมาณ 2,983 ตารางเมตร บนที่ดินรวมประมาณ 172 ไร่ 2 งาน 26.75 ตารางวา

ทรัพย์สินที่กองทรัสต์ WHART เข้าไปลงทุนนั้น มีความโดดเด่น ในด้านทำเลที่ตั้งซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกส์ รวมถึงโครงการซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่อีอีซี ซึ่งจะเป็นการสร้างมูลค่าเสริมเพิ่มให้กับกองทรัสต์ได้ในระยะยาว อีกทั้ง มีความโดดเด่นของผู้เช่าที่เป็นกลุ่มธุรกิจอี คอมเมิร์ซ ซึ่งถือว่าเป็นธุรกิจเมกะเทรนด์ ที่มีการเติบโตสูง รวมถึงผู้เช่าที่เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และเทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Plug-in Hybrid Car) ซี่งจะช่วยให้กลุ่มลูกค้าผู้เช่าของกองทรัสต์มีความหลากหลายมากขึ้น

พร้อมกันนี้ เชื่อว่าภายหลังจากการเข้าลงทุนครั้งนี้ จะส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินรวมของกองทรัสต์ WHART เพิ่มขึ้นแตะระดับกว่า 38,000 ล้านบาท จากเดิมที่มีมูลค่าทรัพย์สินรวม 33,214 ล้านบาท ซึ่งถือได้ว่า WHART ติดอันดับ 1 ใน 3 ของการเป็นหนึ่งในผู้นำในอุตสาหกรรมกองทรัสต์ ประเภทคลังสินค้า โรงงานและศูนย์กระจายสินค้า อีกทั้งยังมองว่าการเพิ่มทุนครั้งนี้ จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหน่วยทรัสต์อย่างมีเสถียรภาพ 

หลังจากกองทรัสต์ WHART เข้าซื้อทรัพย์สินแล้วเสร็จ คาดว่าจะทำให้กองทรัสต์สามารถจ่ายผลตอบแทนได้เพิ่มขึ้น โดยได้มีการประเมินอัตราผลตอบแทนต่อหน่วยไว้ที่ระดับ 0.79 บาทต่อหน่วยทรัสต์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สอบทานโดยผู้สอบบัญชี หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลและลดทุน ประมาณ 4.67% คำนวณจากราคาเสนอขายสูงสุดไม่เกิน 16.90 บาทต่อหน่วยทรัสต์

น.ส.รวีรัตน์ สัจจวโรดม ผู้บริหารงานวาณิชธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ กล่าวว่า จะมีการเปิดให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมจองซื้อหน่วยทรัสต์ WHART จากการเพิ่มทุนครั้งที่ 4 จำนวนทั้งสิ้นไม่เกิน 323.78 ล้านหน่วย โดยราคาสูงสุดที่จะเสนอขายหน่วยทรัสต์ไม่เกิน 16.90 บาทต่อหน่วยทรัสต์ ซึ่งจะเปิดให้ผู้ถือหน่วยเดิมจองซื้อ ระหว่างวันที่ 12 – 15 และ 18 พฤศจิกายน 2562 และสำหรับประชาชนทั่วไป ได้แก่บุคคลตามดุลพินิจของผู้จัดการการจัดจำหน่ายและผู้จัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ จะเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 19 - 22 และ 25 พฤศจิกายน 2562 และคาดว่าโอนกรรมสิทธิ์และสิทธิการเช่าในสินทรัพย์ได้ในช่วงประมาณปลายปี 2562