นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายปี 63 ไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท โดยจะเปิดโครงการใหม่มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 29,000 ล้านบาท เนื่องจากมองว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะกลับมาฟื้นตัวได้บ้าง หลังจากที่หดตัวลงถึง 15% ในปีนี้ ขณะเดียวกันยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับผู้อยู่อาศัยและผู้บริโภคในพื้นที่ด้วย
ทั้งนี้ บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ราว 10,000 ล้านบาท เพื่อที่จะใช้ในการก่อสร้างคอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร รวมถึงใช้ซื้อที่ดินเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ ต่อเนื่อง สำหรับงบในการลงทุนโครงการโรงแรมจะใช้ราว 500-1,000 ล้านบาทต่อปี
สำหรับภาพรวมผลประกอบการในปีนี้บริษัทยังคงมั่นใจรายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 19,000 ล้านบาท และคาดว่ายอดขายจะสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 28,000 ล้านบาท โดยช่วง 9 เดือนแรกปีนี้มียอดขายแล้ว 24,028 ล้านบาท ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่าราว 40,000 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ในปี 63-65
ทั้งนี้ บริษัทมีโครงการพัฒนาแล้วพร้อมขายมูลค่ารวม 8,000-9,000 ล้านบาท โดยเป็นโครงการที่มีราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท อยู่ราว 60-70% ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐที่ประกาศลดค่าโอน ค่าจดจำนอง จนถึงสิ้นปี 63 ซึ่งจะเข้ามาช่วยหนุนให้สินค้าที่มีอยู่เหล่านี้ออกไปได้มากขึ้น
ในส่วนของสัดส่วนรายได้ประจำ บริษัทจะเปิดโรงแรมในช่วงเดือน ม.ค. 63 คือ โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ โรงแรมไอบิส โดยจะสามารถรับรู้รายได้เข้ามาเต็มปี ขณะที่บริษัทย่อย ชื่อ บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ราว 350 ล้านบาท ซึ่งบริษัทคาดหวังที่จะนำเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในช่วงปลายปี 63
นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 62 บริษัทมีโครงการเปิดใหม่ทั้งสิ้น 8 โครงการ แบ่งเป็นคอนโดมิเนียมแบรนด์ดิ ออริจิ้น และนอตติ้ง ฮิลล์ ในโครงการสมาร์ท ซิตี้ โซนอีอีซี รวม 3 โครงการ และโครงการบ้านจัดสรรแบรนด์บริทาเนีย 5 โครงการ ซึ่งยังคงเดินหน้าตามแผน