ภาวะตลาดเงินบาท: ปิดตลาด 30.34 อ่อนค่าหลังมีแรงซื้อดอลลาร์ มองกรอบพรุ่งนี้ 30.30 - 30.40

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday January 16, 2020 17:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 30.34 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า จากเปิดตลาดเช้าอยู่ที่ระดับ 30.26/27 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 30.27 - 30.34 บาท/ ดอลลาร์

"บาทกลับมาอ่อนค่าในช่วงบ่าย หลังมีแรงซื้อดอลลาร์เข้ามามากขึ้น" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.30 - 30.40 บาท/ดอลลาร์

"พรุ่งนี้ คาดว่าบาทมีโอกาสอ่อนค่าไปทดสอบที่ระดับ 30.40 บาท/ดอลลาร์" นักบริหารเงิน กล่าว
  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 109.99 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 109.93/95 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1153 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1151/1155 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,595.87 จุด เพิ่มขึ้น 14.82 จุด, +0.94% มูลค่าการซื้อขาย 62,143.54 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,934.98 ล้านบาท (SET+MAI)
  • สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) คาดในปี 2563 บริษัทเอกชนไทยจะยังคงมีความต้องการระดมทุนผ่าน
การออกหุ้นกู้ระยะยาวอย่างต่อเนื่อง โดยประมาณการว่าจะมีมูลค่าการออกหุ้นกู้ระยะยาวแตะ 850,000 ล้านบาท และคณะ
กรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกครั้งในช่วงไตรมาสแรก ส่งผลให้อัตราผลตอบแทน
พันธบัตร (Bond yield) รัฐบาลระยะสั้นขยับลดลงตาม ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาว 10 ปีซึ่งทำระดับต่ำสุดใหม่
ในช่วงเปิดต้นปี น่าจะมีโอกาสปรับตัวลงในกรอบจำกัด และขยับขึ้นในกรอบแคบเมื่อสงครามการค้ามีแนวโน้มที่ดีขึ้น
  • นักวิเคราะห์ในตลาดพลังงานของสหรัฐ คาดจีนจะสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ในภาคพลังงาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นน้ำมันดิบและก๊าซ
ธรรมชาติจากสหรัฐเพิ่มขึ้น หลังจากทั้งสองประเทศบรรลุข้อตกลงเพื่อยุติสงครามการค้าที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลานาน
  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้อัดฉีดเงิน 3 แสนล้านหยวน (ประมาณ 4.36 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เข้าสู่ระบบ
การเงินผ่านทางข้อตกลง reverse repos ประเภทอายุ 14 วัน ที่อัตราดอกเบี้ย 2.65% เพื่อชดเชยผลกระทบของการจ่ายภาษี
และการอัดฉีดเงินสดเข้าระบบธนาคารเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง ก่อนที่จะถึงวันหยุดในเทศกาลตรุษจีน
  • นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนจะขยายตัวสูง
กว่าระดับ 6% ในปี 2562 และคาดว่าข้อมูลเศรษฐกิจประจำเดือนม.ค. จะบ่งชี้ถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาดของจีน
  • นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน กล่าวภายหลังร่วมลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับสหรัฐที่ทำเนียบขาวเมื่อ
คืนนี้ว่า จีนจะดำเนินการปฏิรูปและเปิดกว้างต่อโลกภายนอกมากขึ้น ขณะที่นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ เผยการเจรจา
ข้อตกลงการค้าเฟสสองระหว่างสหรัฐกับจีนได้เริ่มต้นขึ้นแล้วในขณะนี้ โดยถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นไม่นานหลังจากสหรัฐและจีนได้ลง
นามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกเมื่อวานนี้
  • นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญหลายรายการ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานราย

สัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือน ธ.ค., ราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือน ธ.ค., ดัชนีการผลิตเดือน ม.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย,

สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือน พ.ย. และดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือน ม.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ