ทริสฯ ปรับเครดิตพินิจ CENTEL เป็นแนวโน้ม Negative สะท้อนอัตราเข้าพักโรงแรม-รายได้ลดฮวบจากโควิด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 31, 2020 16:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ทริสเรทติ้งประกาศ "เครดิตพินิจ" แนวโน้ม "Negative" หรือ "ลบ" สำหรับอันดับเครดิตองค์กรและตราสารหนี้ระดับ "A" ของ บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) ซึ่งสะท้อนถึงความกังวลของทริสเรทติ้งเกี่ยวกับการลดลงอย่างรุนแรงของอัตราการเข้าพักโรงแรมและรายได้ของธุรกิจร้านอาหารของบริษัทที่จะปรับลดลงอย่างมากจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 (COVID-19) ทั้งนี้ การแพร่ระบาดมีแนวโน้มที่จะส่งผลกดดันอย่างหนักต่อรายได้และกระแสเงินสดของบริษัทอย่างน้อยในช่วงเวลาหลายเดือนข้างหน้า โดยการลดลงอย่างมากของกระแสเงินสดจากการดำเนินงานจะสร้างความตึงเครียดให้แก่สภาพคล่องของบริษัทในระยะใกล้

มาตรการของภาครัฐซึ่งห้ามและจำกัดการเดินทางเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสสร้างแรงกดดันต่อธุรกิจโรงแรมโดยอัตราการเข้าพักโรงแรมลดลงอย่างมาก นอกจากนี้ มาตรการให้ปิดร้านอาหารในรูปแบบรับประทานที่ร้านและการเว้นระยะห่างทางสังคมยังก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจร้านอาหารอีกด้วย ซึ่งทั้งธุรกิจโรงแรมและธุรกิจร้านอาหารของบริษัทต่างก็ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงด้วยเช่นกัน

กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายของบริษัทมีแนวโน้มลดลงอย่างมากในปี 2563 ซึ่งจะทำให้อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก หากสถานการณ์การแพร่ระบาดยืดเยื้อออกไป อัตราส่วนหนี้สินดังกล่าวของบริษัทก็มีความเป็นไปได้ที่จะยังคงอยู่ในระดับสูงเกินกว่าเกณฑ์ที่ทริสเรทติ้งจะต้องปรับลดอันดับเครดิตของบริษัทลงในปีถัดไป ทั้งนี้ การปรับอันดับเครดิตจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสและการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรม รวมถึงความรวดเร็วในการฟื้นตัวเป็นสำคัญ

บริษัทมีการเตรียมสภาพคล่องไว้รองรับแล้วจำนวนหนึ่ง โดยบริษัทมีหนี้ที่จะครบกำหนดชำระในปี 2563 ที่ประกอบด้วยเงินกู้ยืมระยะยาวจำนวน 700 ล้านบาทและหุ้นกู้จำนวน 800 ล้านบาท บริษัทมีแหล่งสภาพคล่องอันได้แก่เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดจำนวน 2.2 พันล้านบาทและวงเงินกู้ที่พร้อมเบิกใช้อีกประมาณ 1.4 พันล้านบาท

ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการขอวงเงินกู้เพิ่มเติมจากสถาบันการเงินเพื่อใช้ในการสนับสนุนสภาพคล่องของบริษัทในกรณีที่เหตุการณ์แพร่ระบาดยืดเยื้อออกไป ทริสเรทติ้งพิจารณาว่าบริษัทมีการบริหารสภาพคล่องอย่างระมัดระวังโดยที่บริษัทมีสภาพคล่องรองรับผลขาดทุนจากการดำเนินงานได้ในช่วงหลายเดือนข้างหน้า อีกทั้งยังคาดว่าบริษัทจะสามารถหาแหล่งสภาพคล่องได้เพียงพอแม้จะอยู่ในสภาวะที่ตลาดตราสารหนี้ไม่เอื้ออำนวยก็ตามเนื่องจากบริษัทมีความสัมพันธ์อันดีกับสถาบันการเงินที่บริษัทใช้บริการ

หุ้นกู้ของบริษัทมีเงื่อนไขให้บริษัทต้องดำรงอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนไม่เกิน 2 เท่า โดย ณ สิ้นปี 2562 บริษัทมีอัตราส่วนดังกล่าวอยู่ที่ 0.55 เท่า ทริสเรทติ้งพิจารณาเห็นว่าบริษัทมีส่วนเผื่อสำหรับเงื่อนไขทางการเงินเพียงพอในกรณีที่การแพร่ระบาดของไวรัสสามารถควบคุมได้อย่างมีนัยสำคัญในช่วงกลางปี 2563

ในเวลานี้ การคาดการณ์ถึงเงื่อนเวลาและความเร็วในการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรมและธุรกิจร้านอาหารยังทำได้ยาก ทั้งนี้ จะมีการทบทวนเครดิตพินิจของบริษัทอีกครั้งเมื่อทริสเรทติ้งสามารถประเมินระยะเวลาและระดับความรุนแรงของผลกระทบที่จะมีต่อสถานะการเงินของบริษัทจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้อย่างสมเหตุสมผล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ