นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.06/08 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ เปิดตลาดที่ระดับ 31.07/12 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทยังคงทรงตัวจากช่วงเช้า แต่ยังเป็นทิศทางที่แข็งค่า จากผลของแรงขายดอลลาร์สหรัฐเพื่อทำกำไร ขณะที่วันนี้ราคา ทองคำเริ่มปรับตัวลดลง คืนนี้ นักลงทุนติดตามตัวเลขดัชนีผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค.ของสหรัฐ และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในคืนถัดไป รวมทั้งการรอผลการหารือทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่จะมีขึ้นในวันที่ 15 ส.ค.นี้ด้วย
นักบริหารเงิน คาดว่า เงินบาทในวันพฤหัสจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.00 - 31.20 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 106.06/09 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 106.21 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1787/1790 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1540 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,336.84 จุด เพิ่มขึ้น 14.83 จุด (+1.12%) มูลค่าการซื้อขาย 71,984 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 497.37 ลบ.(SET+MAI)
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า ดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนไทย (KR-ECI) ในเดือนก.ค.63 อยู่ที่
ระดับ 35.3 ปรับตัวลดลงจากระดับ 36.0 ในเดือนมิ.ย.63 จากความกังวลของครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นต่อประเด็นเรื่องภาระหนี้สิน ค่าใช้
จ่าย รวมถึงระดับราคาสินค้าและบริการภายในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น แม้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้
เพิ่มเติม สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลของครัวเรือนต่อประเด็นภาระหนี้สิน แม้ทางการจะมีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ออกมาอย่างต่อเนื่อง
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ประกาศว่า กำลังพิจารณาจัดประชุมกลุ่ม G7 หลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้ง
ประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นในเดือนพ.ย. นี้ และนับเป็นการเลื่อนกำหนดจัดงานออกไปอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เสนอว่าอาจจัดประชุมใน
เดือนก.ย.
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ มีแผนจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์เพื่อรับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันในการลง
สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ในระหว่างการจัดประชุมใหญ่ของพรรครีพับลิกัน (RNC) โดยการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้อาจจัดขึ้นที่ทำเนียบ
ขาว หรืออาจจะจัดขึ้นที่สมรภูมิเกตตีสเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งเป็นสถานที่ที่อดีตประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์น เคยขึ้นกล่าวสุนทรพจน์
ครั้งประวัติศาสตร์เมื่อคราวที่เกิดสงครามกลางเมืองในสหรัฐ
- คณะกรรมการบริหารของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า สหรัฐต้องมีมาตรการทางการคลังขนานใหญ่
เพิ่มเติมเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 และกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
- สภารัฐกิจจีนประกาศเปิดตัวนโยบายเพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมการผลิตชิปในประเทศ โดยมุ่งเน้นที่การบรรเทาภาษีเป็นหลัก
ซึ่งคาดว่าเป็นความเคลื่อนไหวเพื่อรับมือกับสถานการณ์ตึงเครียดกับสหรัฐที่ยังคงรุนแรงขึ้น และเป็นไปตามยุทธศาสตร์ "Made in China
2025" ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อผลิตเซมิคอนดักเตอร์ให้ได้ 70% ของที่จีนใช้เองทั้งหมดภายในค.ศ. 2025
- รัฐบาลสิงคโปร์เปิดเผยในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2563 หดตัวลง 13.2% เมื่อ
เทียบเป็นรายปี ซึ่งย่ำแย่กว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นซึ่งระบุว่า GDP ไตรมาส 2 หดตัวลง 12.6%