ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.35 อ่อนตามภูมิภาค รอเฟดส่งสัญญาณลด QE คาดกรอบพรุ่งนี้ 33.30-33.45

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 20, 2021 17:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 33.35 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจาก เปิดตลาดเมื่อเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.35/37 บาท/ดอลลาร์

ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.30-33.40 บาท/ดอลลาร์ โดยวันนี้เงินบาทอ่อนค่าในทิศทางเดียวกับภูมิภาค จากการที่ตลาดปิดรับความเสี่ยงเทขายหุ้น และกลับเข้าถือครองสกุลเงินดอลลาร์ เนื่องจากมีความกังวลเรื่องภาคอสังหาริมทรัพย์ใน ประเทศจีน ประกอบกับการที่ประเทศสหรัฐฯ อาจมีการปรับขึ้นอัตราภาษีนิติบุคคล

รวมทั้งตลาดอยู่ระหว่างการระมัดระวัง และติดตามการส่งสัญญาณจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเรื่องการปรับลดวงเงิน ซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ซึ่งจะมีการประชุมในช่วงวันที่ 21-22 ก.ย.นี้

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทของวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 33.30-33.45 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.63 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 109.97/110 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1700 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1719 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,603.06 จุด ลดลง 22.59 จุด (-1.39%) มูลค่าการซื้อขาย 85,014 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 254.64 ลบ.(SET+MAI)
  • คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ มีมติเห็นชอบให้มีการทบทวนกรอบสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมใน
ประเทศ (GDP) จากเดิมที่กำหนดไว้ ต้องไม่เกิน 60% เป็นต้องไม่เกิน 70% ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่ทางการคลังให้กับรัฐบาล และไม่
เป็นอุปสรรคหากรัฐบาลมีความจำเป็นต้องกู้เงินเพื่อดำเนินนโยบายการคลังในระยะปานกลาง โดยยังคงมีความสามารถในการชำระหนี้อยู่
ในเกณฑ์ดี
  • ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 จะมีการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในวันจันทร์ที่ 27 ก.ย.นี้
ซึ่งจะมีการหารือถึงมาตรการให้ความช่วยเหลือในส่วนของผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ สถานบันเทิงต่าง ๆ ด้วย
  • สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ส่งหนังสือถึงบริษัทจดทะเบียนทุกแห่ง โดยขอให้
บริษัทจดทะเบียนที่มีการลงทุน หรือมีแผนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล พิจารณาลงทุนด้วยความรอบคอบและระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบ
ต่อฐานะการเงินหรือผลการดำเนินงานอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงค่อนข้างสูงจากความผันผวนของ
ราคา
  • กระทรวงพาณิชย์ เตรียมศึกษาความพร้อม ประเมินผลประโยชน์ และผลกระทบของประเทศ รวมทั้งการรับฟังความเห็น
ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ภายหลังจากประเทศจีนได้ยื่นขอสมัครเข้าเป็นสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP)
  • นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 21-22 ก.ย.นี้ ซึ่งคาดว่าเฟดจะเริ่ม
หารือเกี่ยวกับการปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE
  • นักวิเคราะห์เตือนว่า บริษัทในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่ประสบปัญหาสภาพคล่องอย่างหนัก มีความเสี่ยงสูงที่จะล้ม
ละลาย หลังจากที่บริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของจีน โดยมีความเสี่ยงที่จะ
เผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งหากมีการล้มละลายเกิดขึ้นก็จะส่งผลกระทบ "ในเชิงระบบ" ไปสู่ภาคส่วนอื่นๆ ของเศรษฐกิจด้วย
  • รมว.คลังสหรัฐ เตือนว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจจะพลิกผันจากฟื้นตัวไปเป็นถดถอย หากสภาคองเกรส ไม่รีบปรับเพิ่มเพดาน
หนี้ของรัฐบาล และอาจทำให้เกิดหายนะทางเศรษฐกิจในวงกว้าง
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคาร

กลางสหรัฐ (FOMC) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย, ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 2/64, ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.ย.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่ง

ชาติ (NAHB), ยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนก.ย. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ

(PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนก.ย.จากมาร์กิต และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ