ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.37 อ่อนค่าต่อเนื่องจากวานนี้ตามภูมิภาค ให้กรอบวันนี้ 33.30-33.50

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 21, 2021 08:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 33.37 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากปิด ตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.35 บาท/ดอลลาร์ หลังดอลลาร์แข็งค่าเนื่องจากมีแรงซื้อจากนักลงทุนที่ปิดรับความเสี่ยงจากหลายปัจจัย ได้แก่ ปัญหาบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีนเสี่ยงล้มละลาย รัฐบาลสหรัฐเตรียมปรับขึ้นภาษีนิติบุคคล และแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น

"บาทอ่อนค่าต่อเนื่องตามภูมิภาค หลังนักลงทุนปิดรับความเสี่ยงอื่นๆ หันมาถือครองสกุลเงินหลักจากหลายปัจจัยที่มารุมเร้าใน ขณะนี้" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.30-33.50 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (20 ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.32557% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.32658%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.54 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 109.63 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1726 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1700 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.363 บาท/ดอลลาร์
  • นายกฯ นั่งหัวโต๊ะประชุมบอร์ดวินัยการคลัง เคาะเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะไม่เกิน 70% รองรับกู้เงินฟื้นเศรษฐกิจ สบน.ชี้
เพิ่มช่องกู้เพิ่มได้อีก 1 ล้านล้าน สศค.เผยไตรมาส 4 เศรษฐกิจส่งสัญญาณฟื้น "ทีดีอาร์ไอ" เตือนรัฐบาลต้องไม่ประมาททางการคลัง แนะ
เร่งลดหนี้สาธารณะ เพิ่มรายได้รัฐบาล รับมือวิกฤติในอนาคต
  • 'กรมเจรจาฯ' เร่งประเมินข้อดี-ข้อเสียเข้าร่วม CPTPP หลังจากล่าสุดจีนสมัครแล้ว ชี้ประโยชน์ที่จะได้จากการเข้าสู่
ตลาด CPTPP ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น จากการเข้าร่วมของจีนและอังกฤษ มีประชากรรวม 1.9 พันล้านคน แต่ต้องมีมาตรการเยียวยากลุ่มที่ได้ผล
กระทบด้วย
  • รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต.ได้ส่งหนังสือ
ไปยังบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ทุกแห่ง รวมกว่า 700 แห่งโดยขอให้บริษัทจดทะเบียนที่มีการลงทุน หรือมีแผนลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล
พิจารณาลงทุนด้วยความรอบคอบและระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อฐานะการเงินหรือผลการดำเนินงานอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจาก
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงค่อนข้างสูงจากความผันผวนของราคา
  • รอลุ้น 27 ก.ย. ศบค.เคาะผ่อนมาตรการเพิ่ม รับเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว แต่ย้ำจะทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ให้ผู้
ประกอบการภาคธุรกิจต้องทำตามมาตรการ "โควิด ฟรี เซตติ้ง" หากรายใดยังไม่พร้อมก็ต้องรอ
  • ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป บริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่อันดับ 2 ของจีนซึ่งกำลังเผชิญปัญหาวิกฤตสภาพคล่อง มีกำหนดจ่าย
ดอกเบี้ยหุ้นกู้ของบริษัท 2 งวดในเดือนนี้
  • ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ยืนยันว่า สหรัฐกำลังจับตาวิกฤตการณ์การเงินของบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ปอย่างใกล้
ชิด และพร้อมรับมือผลกระทบดังกล่าว หากมีความจำเป็น
  • บิตคอยน์ทรุดหนัก 10% ตามตลาดหุ้นทั่วโลกเมื่อวานนี้ โดยหลุดระดับ 44,000 ดอลลาร์ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการ
ผิดนัดชำระหนี้ของไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป บริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่อันดับ 2 ของจีน
  • นักวิเคราะห์จากบริษัททีเอส ลอมบาร์ด เตือนว่า การผิดนัดชำระหนี้ของเอเวอร์แกรนด์จะทำให้วิกฤตการณ์ทางการเงิน
ลุกลามออกไปจนอาจกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
  • อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กเปิดเผยวานนี้ว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกที่ทรุดตัวลงท่ามกลางความวิตก
เกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป บริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่อันดับ 2 ของจีน จะไม่ส่งผลให้เฟดเปลี่ยนแปลงการ
ตัดสินใจเกี่ยวกับการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 ก.ย.) โดย
นักลงทุนพากันเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ซึ่ง
เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่อันดับ 2 ของจีน นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจ
ส่งสัญญาณปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมสัปดาห์นี้
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหลัง
ตลาดหุ้นสหรัฐและทั่วโลกร่วงลงอย่างหนัก ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป บริษัทอสังหาริม
ทรัพย์ใหญ่อันดับ 2 ของจีน
  • นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ รวมทั้งถ้อยแถลงของนายเจอโรม
พาวเวล ประธานเฟด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ
(QE)
  • ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ การเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนส.

ค., ยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนส.ค.จากเฟด

ชิคาโก, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนก.ย.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือน

ก.ย.จากมาร์กิต และยอดขายบ้านใหม่เดือนส.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ