นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 33.64 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเปิด ตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 33.60 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดโลก เนื่องจากดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.58 - 33.74 บาท/ดอลลาร์
"ช่วงนี้บาทเคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดโลก โดยช่วงเช้าอ่อนค่าไปมากก่อนที่จะกลับมาแข็งค่าในช่วงบ่าย แต่ตลาดยังไม่มี ปัจจัยใหม่เป็นการย่อยข่าว non-farm เมื่อวันศุกร์" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 33.55 - 33.75 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 115.66 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 115.61 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1328 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1356 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,657.06 จุด ลดลง 0.56 จุด, -0.03% มูลค่าการซื้อขาย 79,544.57 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,677.35 ล้านบาท (SET+MAI)
- ธนาคารแห่งประเทศไทย มองเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง เพียงแต่เห็นว่าการระบาดของไวรัสโควิด-19
สายพันธุ์โอมิครอนถือเป็นความเสี่ยงสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า โดยคาดว่าในปี 65 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 3.4% ส่วน
ในปี 66 คาดว่าจะขยายตัวได้ 4.7% จากในปี 64 ที่ขยายตัวได้ 0.9%
- กรมสรรพากร เผยกำลังเร่งดำเนินการหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางหลักเกณฑ์การคิดภาษีจากกำไรการขาย
หรือการลงทุนในคริปโทเคอเรนซีให้มีความเหมาะสมและเป็นปัจจุบัน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ม.ค.65
- ศบค.เผยสถานการณ์การแพร่ระบาดสายพันธุ์โอมิครอนในประเทศพบผู้ติดเชื้อแล้ว 5,397 ราย กระจายใน 71 จังหวัด
และผลสุ่มตรวจตั้งแต่วันที่ 2-8 ม.ค.65 พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน 70.3% สายพันธุ์เดลตา 29.7% ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เดินทางมาจาก
ต่างประเทศ
- สมาคมผู้ค้าปลีกไทย เผยผลสำรวจความเชื่อมั่น (Retail Sentiment Index) ของผู้ประกอบการค้าปลีกประจำเดือน
ธ.ค.64 อยู่ที่ 68.4 ปรับเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย โดยการจับจ่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่ปลายปีคึกคักแต่ไม่เป็นไปตามคาด และมียอดซื้อต่อบิล
เพิ่มขึ้นเล็กน้อยและเกิดจากราคาสินค้าที่ปรับขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบการยังมีความกังวลต่อจำนวนผู้ติดเชื้อโอมิครอนที่เพิ่มมากขึ้น และมาตรการ
ของภาครัฐที่ไม่ชัดเจนในการควบคุมการแพร่ระบาดของโอมิครอน
- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) แนะกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ต้องเตรียมตัวรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยเตือนว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่เร็วกว่าคาดของเฟดอาจสั่นคลอนตลาดเงินและจุดชนวนให้เกิดการไหล
ออกของเงินทุน และทำให้เกิดการอ่อนค่าของสกุลเงินต่างประเทศ
- โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ และจะเริ่มการปรับลดขนาด
งบดุลบัญชีในช่วงเดือน ก.ค.หรือเร็วกว่านั้น
- นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจากธนาคาร UBP ของสวิตเซอร์แลนด์ ออกมาให้ความเห็นว่า ประเทศต่าง ๆ ในทวีปเอเชียจะ
ต้องเผชิญกับความเสี่ยงหลัก 3 ประการในปี 2565