นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.30 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ เปิดตลาดที่ระดับ 35.31 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 35.23-35.34 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันยังไร้ ปัจจัยใหม่
"วันนี้บาทเคลื่อนไหวไซด์เวย์ แกว่งในกรอบ ตลาดค่อนข้างเงียบ ระหว่างวันไม่มีปัจจัยใหม่ ด้านภูมิภาคก็เคลื่อนไหวเล็กน้อย เช่นกัน ส่วนคืนนี้ตลาดก็ค่อนข้างเบาบาง เนื่องจากสหรัฐฯ หยุด " นักบริหารเงิน ระบุ
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 35.20 - 35.40 บาท/ดอลลาร์ ส่วนปัจจัยที่ต้อง ติดตาม คือ ถ้อยแถลงของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 134.84 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 134.99 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0532 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0497 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,559.21 จุด ลดลง 0.18 จุด (-0.01%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 56,963 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,632.24 ลบ. (SET+MAI)
- รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ระบุถึงมาตรการยกเว้นภาษี หรือ Capital Gain Tax เป็นเวลา 10 ปี
แก่นักลงทุนไทยและต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในดิจิทัลสตาร์ทอัพไทยภายใต้ 12 อุตสาหกรรมเป้าหมายว่า จะส่งผลดีต่อสตาร์ทอัพสัญชาติไทย
โดยเฉพาะสตาร์ทอัพในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ หุ่น
ยนต์เพื่ออุตสาหกรรม อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมพัฒนาคนและการศึกษา ฯลฯ เพิ่มโอกาสการเติบโตของดิจิทัลสตาร์
ทอัพไทย พร้อมก้าวสู่ระดับสากล ซึ่งถือเป็นแผนงานหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
- โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งกระจายรายได้สู่
ประชาชน แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องให้ทั่วถึง เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม ผ่าน "โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโค
วิดด้วยเศรษฐกิจ BCG" ให้ครอบคลุม 7,435 ตำบลทั่วประเทศ โดยจะใช้ประโยชน์สูงสุดจากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของชุมชน (Thailand
Community Big Data: TCD) ที่พัฒนาไว้ และทำให้ต่อเนื่องสมบูรณ์ทุกพื้นที่ เพื่อสร้างรายได้ พัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้เติบโตได้อย่าง
ยั่งยืน
- ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยในวันนี้ว่า BOJ หวังที่จะรับมือตลาดเงินอย่างเหมาะสมโดยร่วมมืออย่างใกล้
ชิดกับรัฐบาลญี่ปุ่น พร้อมส่งสัญญาณเตือนเกี่ยวกับการอ่อนค่าของเงินเยน
- ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า จะหารือกับผู้นำจีนเร็วๆ นี้ และกำลังพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรกับมาตรการเรียกเก็บ
ภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนที่ออกโดยรัฐบาลของอดีตปธน.สหรัฐ
- รัฐมนตรีคลังสหรัฐคาดการณ์ว่า มีความเป็นไปได้ที่สหรัฐจะเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นตลอดทั้งปีนี้ และคาดว่าเศรษฐกิจ
สหรัฐจะชะลอตัวลง นอกจากนี้ ยังระบุว่า เหตุผลที่ทำให้เงินเฟ้อพุ่งแรงนั้นเป็นปัจจัยจากทั่วโลก ไม่ใช่แค่ระดับประเทศ ซึ่งเกิดจากภาวะ
ชะงักงันของอุปทานพลังงานเนื่องจากสงครามในยูเครน และการส่งออกสินค้าจากจีนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ที่ยังคงใช้อยู่
โดยระบุว่า ปัจจัยเหล่านี้ไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลายในระยะเวลาอันใกล้นี้
- เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายเฟดคาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในกรอบ 1.50% -1.75% สู่ระดับ 3.4% ใน
ช่วง 6 เดือนข้างหน้า ขณะที่เมื่อหนึ่งปีก่อน เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายส่วนใหญ่คาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะเคลื่อนไหวอยู่ใกล้ระดับ 0% จน
กระทั่งปี 2566
- นักลงทุนจะติดตามถ้อยแถลงด้านนโยบายการเงินของประธานเฟดต่อต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันที่
22-23 มิ.ย.65 รวมถึงข้อมูลยอดขายบ้านเดือน พ.ค.65 ของสหรัฐฯ