ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 35.34 แข็งค่าจากวานนี้ ตลาดรอรายงานประชุมเฟด-ตัวเลขค้าปลีกสหรัฐ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 17, 2022 09:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.34 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก เย็นวานที่ปิดตลาดที่ระดับ 35.52 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทแข็งค่าขึ้นจากเย็นวาน สอดคล้องกับสกุลเงินอื่นในภูมิภาค หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เดือนก. ค. ออกมาแบบผสม คือ มีทั้งดีกว่าที่ตลาดคาด และแย่กว่าที่ตลาดคาด โดยในส่วนของตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนก.ค. ลดลงต่ำสุด ตั้งแต่ ก.พ.64 ในขณะที่ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมเดือน ก.ค.เพิ่มขึ้น 0.6% จึงทำให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ส่งผลให้บาท ปรับตัวแข็งค่า

"เมื่อคืนนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาแบบผสม ทั้งผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และตัวเลขบ้าน ทำให้ดอลลาร์ย่อตัวลง ส่ง ผลให้บาทแข็งค่า ด้านสกุลเงินภูมิภาคส่วนใหญ่ก็แข็งค่าเช่นกัน" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.30-35.50 บาท/ดอลลาร์ ปัจจัยที่ต้องติดตามวันนี้ คือ รายงานการประชุมเฟดรอบเดือนก.ค. และตัวเลขยอดค้าปลีกเดือนก.ค. ของสหรัฐฯ

THAI BAHT FIX 3M (16 ส.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.71597% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.81266%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 134.19 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 134.10 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0173 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.0130 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.412 บาท/ดอลลาร์
  • ธปท. เตรียมออกมาตรการใหม่ "สินเชื่อปรับตัว" คาดวงเงิน 6.5 หมื่นล้าน รองรับขอกู้ "เอสเอ็มอี" เพียงพอ หวัง
ช่วยลูกหนี้ พลิกฟื้นธุรกิจหลังโควิด-19 ชี้ปัจจุบันมีลูกหนี้ขอเข้าโครงการช่วยเหลือพุ่ง เหตุต้นทุนพุ่ง
  • "แบงก์ชาติ" เปิดรับฟัง ร่างฯ คุมธุรกิจลีสซิ่งไม่ให้ดอกเบี้ยสูงเกินไป "บล.หยวนต้า" ชี้ดบ.เช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ ใหม่
หากต่ำกว่า 26% กดดัน "ศรีสวัสดิ์" มากที่สุด แต่เชื่อ ธปท.รับรู้ต้นทุนไม่กำหนดต่ำจนธุรกิจไม่รอด หากเคาะเพดานดบ.ชัดเจนเป็นสัญญาณ
เชิงบวกหุ้นไฟแนนซ์
  • ธปท. โชว์ผลงานธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 2 ฟันกำไร 6.47 หมื่นล้าน โต 7.2% ชี้ปล่อยสินเชื่อยังโตต่อเนื่องที่ 6.3%
ส่วนหนี้เสียลดมาอยู่ที่ 5.27 แสนล้าน มองขึ้นดอกเบี้ยนโยบายไม่ทำให้หนี้เสียเพิ่มขึ้น
  • ครม.เห็นชอบแนวทางมาตรการ Quick Win และมาตรการต่อเนื่อง แก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ
  • รมช.คลัง เปิดเผยว่า ในการเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ที่จะเริ่มวันที่ 5 ก.ย.นี้ กระทรวงการคลังจะ
มีการเพิ่มหน่วยงานเข้ามาช่วยตรวจสอบคุณสมบัติมากขึ้น จากครั้งก่อน มี 23 หน่วยงาน เพิ่มเป็น 47 หน่วยงาน เพื่อเพิ่มความแม่นยำใน
การระบุตัวตนผู้มีรายได้น้อยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และป้องกันไม่ให้คนจนตัวปลอมเข้ามาได้รับสิทธิ
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านดิ่งลง 9.6% ในเดือนก.ค. สู่ระดับ 1.446 ล้าน
ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2564 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.540 ล้านยูนิต โดยได้รับผลกระทบ
จากการพุ่งขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง และราคาวัสดุก่อสร้าง
  • การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐในเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 0.6% หลังจากทรงตัวในเดือนมิ.ย. ทั้งนี้ ตัว
เลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวม เป็นการวัดการปรับตัวของภาคโรงงาน, เหมืองแร่ และสาธารณูปโภค
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร
(16 ส.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานการประชุมเมื่อวันที่ 26-27 ก.ค. ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทาง
อัตราดอกเบี้ยของเฟด
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 8.4 ดอลลาร์ หรือ 0.47% ปิดที่
1,789.7 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (16 ส.ค.) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทน
พันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันตลาด
  • นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโกกล่าวว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ชะลอตัวลง
ในเดือนก.ค. และถือเป็นข้อมูลในเชิงบวกเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ที่เฟดเริ่มใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงิน
  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า
เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 1.8% ในไตรมาส 3 ซึ่งตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าว ต่ำกว่าระดับ 2.5% ที่มีการระบุก่อนหน้านี้
  • ผลการศึกษาของ Merchant Machine ซึ่งเป็นเว็บไซต์เปรียบเทียบการชำระเงินพบว่า สหรัฐเป็นประเทศที่มีการ
ใช้คริปโทเคอร์เรนซีสูงสุดในโลก ขณะที่ไทยติดอันดับ 5
  • ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐ ลงนามบังคับใช้กฎหมายลดเงินเฟ้อ (Inflation Reduction Act) ซึ่งประกอบ
ด้วย เงินงบประมาณลงทุน 4.3 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ, มาตรการที่จะทำให้ยาตามใบสั่งแพทย์มี
ราคาถูกลง และการเก็บภาษีขั้นต่ำ 15% สำหรับบริษัทส่วนใหญ่ที่ทำรายได้มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ซึ่งจะสร้างรายได้ใหม่มากกว่า
3 แสนล้านดอลลาร์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ