ภาวะตลาดเงินบาท: บาทเย็นนี้ 35.27 แข็งค่ารับตัวเลขศก.แนวโน้มดี คาดกรอบพรุ่งนี้ 35.20-35.50

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 30, 2022 16:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเย็นนี้อยู่ที่ 35.27 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าต่อ เนื่องจากเปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 35.45 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเย็นนี้ ปรับตัวแข็งค่าจากช่วงเช้า ขณะที่ค่าเงินภูมิภาคเคลื่อนไหวแบบผสม เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจใน ประเทศออกมาค่อนข้างดี โดยเฉพาะยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดที่กลับมาเป็นบวก ขณะที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ส่ง สัญญาณที่จะทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีกสักระยะ โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 35.19 - 35.54 บาท/ ดอลลาร์

"วันนี้บาทแข็งค่าไปทำ new low ในรอบกว่า 3 เดือนที่ระดับ 35.19 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่านำภูมิภาค น่าจะได้รับ ปัจจัยหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดี" นักบริหารเงิน ระบุ

คืนนี้ตลาดรอฟังถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เกี่ยวกับการส่งสัญญาณเรื่องทิศทางอัตราดอกเบี้ย นโยบายของสหรัฐ

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 35.20 - 35.50 บาท/ดอลลาร์

THAI BATH SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 35.2725 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 138.79 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 138.45 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.0347 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0350 ดอลลาร์/ยูโร
  • คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ระบุว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยภาคท่องเที่ยวและการ
บริโภคภาคเอกชน จะยังเป็นแรงส่งสำคัญของเศรษฐกิจในระยะต่อไป และจะช่วยลดทอนผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
โลก แม้จะมีการปรับคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี 65 และ 66 ลดลงจากเดิมเล็กน้อย โดย
ประเมินว่า GDP ปี 65 จะขยายตัว 3.2% จากเดิม 3.3% และปี 66 ขยายตัว 3.7% จากเดิม 3.8% ส่วนปี 67 จะขยายตัวได้
3.9%
  • คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก
1.00% สู่ระดับ 1.25% ต่อปี โดยให้มีผลทันที ทั้งนี้ ภายใต้ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจการเงินโลกที่สูงขึ้นในระยะข้างหน้า
หากแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อไทยเปลี่ยนไปจากที่ประเมินไว้ คณะกรรมการ กนง.พร้อมที่จะปรับขนาด และเงื่อนเวลาของการ
ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้เหมาะสมต่อไป
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยภาวะเศรษฐกิจและเงินเดือน ต.ค.65 ยังอยู่ในทิศทางฟื้นตัว แม้จะได้รับ
แรงกดดันจากการส่งออกสินค้าที่ปรับลดลงตามอุปสงค์ประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัว และปัจจัยชั่วคราวจากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นน้ำมัน
ส่งผลให้การผลิตภาคอุตสาหกรรม และเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนปรับลดลง ขณะที่เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนลดลงเล็กน้อย
โดยภาคการท่องเที่ยวยังฟื้นตัวต่อเนื่องตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ นอกจากนี้ปัจจัยสนับสนุนกำลังซื้อยังปรับดีขึ้น ทั้งการจ้าง
งาน รายได้ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
  • สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ต.ค.65 อยู่ที่ระดับ
93.89 ลดลง 3.71% จากเดือน ต.ค.64 โดยช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ต.ค.) ดัชนี MPI อยู่ที่ 99.06 ขยายตัว
เฉลี่ย 2.17% ทั้งนี้ สศอ.ประมาณการว่า ในปี 2565 MPI จะขยายตัว 1.9% ขณะที่ GDP ภาคอุตสาหกรรม จะขยายตัว 2.0%
ส่วนในปี 2566 คาดว่า MPI จะขยายตัว 2.5-3.5% ขณะที่ GDP ภาคอุตสาหกรรม จะขยายตัว 2.5-3.5%
  • ศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 25 และ มาตรา 26 ไม่มีข้อความขัดหรือแย้ง
ต่อรัฐธรรมนูญ รวมทั้งกระบวนการตราขึ้นโดยถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ
  • ทีมนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า มีความเป็นไปได้สูงมากที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)
และพันธมิตร (โอเปกพลัส) จะเดินหน้าใช้มาตรการสกัดการร่วงลงของราคาน้ำมัน และพยายามที่จะสร้างสมดุลในตลาด
  • กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตร (โอเปกพลัส) จะมีมติปรับลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรล/
วันสำหรับเดือนธ.ค.ในการประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 4 ธ.ค. อันเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ลดลงในจีน
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐที่จะมีการรายงานในคืนนี้ ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ย.จาก ADP,

ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2565 (ประมาณการครั้งที่ 2), ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการ

หมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนต.ค., ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนต.ค.,

สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book

จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ